Pages

Thursday, June 18, 2020

สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้คาดแกว่งตัวกรอบแคบ ตลาดไร้ปัจจัยหนุน - efinanceThai

jengkolpasar.blogspot.com

  สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้นักวิเคราะห์คาดแกว่งตัว สร้างฐานในกรอบ 1,360 - 1,385 จุด โดยยังขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่หลังปรับตัวขึ้นตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมารับความคาดหวังเชิงบวกเรื่อง Reopen Economy และส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไปค่อนข้างมาก ประเด็นบวกวันนี้มีเพียง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นหลังเดือนพ.ค.กลุ่มโอเปกพลัสได้ปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันไปแล้ว 87% ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 รอบโลกยังไม่ดีขึ้น


*ตลาดหุ้นไทย


  ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET Index)วานนี้(18มิ.ย.63) เปิดตลาดลงลึกในแดนลบก่อนที่ดัชนีจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา ปิดตลาดไปที่ 1,372.98 จุด ติดลบเล็กน้อย 3.20 จุด หรือ -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 70,282.43 ล้านบาท
  ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,013.38 จุด ลดลง -7.04 จุด หรือ -0.35%
  ดัชนี SET50 ปิดที่ 910.63 จุด ลดลง -3.86 จุด หรือ -0.42%
  ดัชนี mai ปิดที่ 299.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด หรือ 1.25%


*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ


  ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 มิ.ย.)ที่ระดับ 26,080.10 จุด ลดลง 39.51 จุด หรือ -0.15%
  ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับ 9,943.05 จุด เพิ่มขึ้น 32.52 จุด หรือ 0.33%
  ดัชนี S&P500 ปิดตลาดที่ระดับ 3,115.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด หรือ 0.06 %
  ดัชนีดาวโจนส์ ปิดการซื้อขายในแดนลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯได้เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.5 ล้านราย แม้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคาดการณ์ เป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกัน แม้รัฐบาลจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม


  ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคมที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ระดับ 38.84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 2.32%


*มุมมองนักวิเคราะห์


  บล.กรุงศรี เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,365 – 1,380 จุด จากปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้าโดยภาวะตลาได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นหลังเดือนพ.ค.กลุ่มโอเปกพลัสได้ปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันไปแล้ว 87% ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ อย่างไรก็ตามความกังวลไวรัส Covid-19 จะกลับมาแพร่ระบาดรอบสองหลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้น 2.8 หมื่นราย ประกอบกับข่าวลบกลุ่ม Bank และ Finance ที่ธปท.จะขอความร่วมมือสถาบันการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในส่วนของบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล จำนำทะเบียนรถ และเช่าซื้อซึ่งจะกระทบต่อรายได้และกำไรของกลุ่ม อีกทั้งช่วงปิดตลาดวันนี้ FTSE All World จะปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลงจาก 3.05% เหลือ 2.98% หรือราว 3.7 พันลบ.จะกดดันต่อภาวะตลาด


  บล.ฟินันเซีย ไซรัส เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways สร้างฐานในกรอบ 1,360-1,385 จุด โดยยังขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่หลังปรับตัวขึ้นตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมารับความคาดหวังเชิงบวกเรื่อง Reopen Economy และส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไปค่อนข้างมาก ล่าสุดวานนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯอยู่ที่ 1.5 ล้านคนมากกว่าที่ตลาดคาดและลดลงเพียงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามระยะนี้คือการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 ควบคู่ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังทั่วโลก (ล่าสุด BoE เพิ่มวงเงิน QE อีก 1 แสนล้านปอนด์) ในไทย กนง.จะประชุมสัปดาห์หน้า เราประเมินการเคลื่อนไหวของตลาดจะค่อนข้างผันผวนระยะนี้ โดยจังหวะพักตัวลงของ SET Index บริเวณ 1,330-1,350 จุด+/- ซึ่งเทียบเท่า 2021PER ราว 15.7 เท่าและ Earning Yield Gap ราว 5% เป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน โดยเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็นหลัก เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ โรงไฟฟ้า สื่อสารฯ เป็นต้น

Let's block ads! (Why?)


June 19, 2020 at 09:28AM
https://ift.tt/37HaFIp

สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้คาดแกว่งตัวกรอบแคบ ตลาดไร้ปัจจัยหนุน - efinanceThai
https://ift.tt/3azMLPC
Home To Blog

No comments:

Post a Comment