สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้นักวิเคราะห์คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,330 – 1,350 จุด ดัชนีจะถูกกดดันจากความกังวลการประท้วงที่ลุกลามเพิ่มขึ้นในสหรัฐส่งผลให้หลายเมืองใหญ่ต้องประกาศเคอร์ฟิว รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีนที่เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่กฏหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง แต่ดัชนีจะได้รับแรงหนุนราคาน้ำมันบวกเหนือ 35 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกครั้ง
*ตลาดหุ้นไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET Index)วันศุกร์ที่ผ่านมา(29พ.ค.63)เปิดตลาดในแดนลบก่อนที่ดัชนีจะผันผวนสลับกับแดนบวกตลอดทั้งวัน มาปิดตลาดไปได้ที่ 1,342.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 96,186.64 ล้านบาท
ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,974.61 จุด เพิ่มขึ้น 13.75 จุด หรือ +0.70%
ดัชนี SET50 ปิดที่ 896.01 จุด เพิ่มขึ้น 7.17 จุด หรือ +0.81%
ดัชนี mai ปิดที่ 284.87 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือ +0.09%
*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ
ดัชนี Dow30 ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.63) ที่ระดับ 25,383.11 จุด ลดลง 17.53 จุด หรือ -0.07%
ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่ระดับ 3,044.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.58 จุด หรือ +0.48%
ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับ 9,489.87 จุด เพิ่มขึ้น 120.88 จุด หรือ +1.29%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในแดนลบ ด้วยการซื้อขายที่เบาบางจากปัจจัยกดดัน ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯได้ประกาศยกเลิก สถานะพิเศษของฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่ประกาศผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง
ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคมที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ระดับ 35.49 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ +5.28%
*มุมมองนักวิเคราะห์
บล.กรุงศรี เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัวทดสอบ 1,330 – 1,350 จุด โดยแม้ว่าดัชนีจะถูกกดดันจากความกังวลการประท้วงที่ลุกลามเพิ่มขึ้นในสหรัฐส่งผลให้หลายเมืองใหญ่ต้องประกาศเคอร์ฟิว รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีนที่เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่กฏหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง ซึ่งกดดันต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าปัจจัยบวกภายในจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นหลังสภาฯผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือ 35 US/Barrel หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของสหรัฐลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นั้นจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,335-1,350 จุด โดยกลุ่มพลังงานจะกลับมานำตลาดระยะสั้นหลังราคาน้ำมันดิบคืนวันศุกร์พุ่งแรงกว่า 5% ขณะที่ตลาดยังให้น้ำหนักกับการ Reopen Economy อย่างไรก็ตามยังต้องระมัดระวังสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนหลังทรัมป์แถลงยกเลิกข้อตกลงพิเศษต่างๆที่ให้แก่ฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่ผ่านกฎหมายความมั่นคง ขณะที่ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมากว่า 30% ในช่วง 2 เดือนครึ่ง Price In ปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายระยะต่างๆไปมาก ทำให้ระยะถัดอาจมีแรง Sell on Fact หลังสถานการณ์กลับมาใกล้ระดับปกติก่อนมี COVID-19 เราประเมินกรอบบนของดัชนีรอบนี้บริเวณ 1,360-1,400 จุดซึ่งเทียบเท่า 2021PER ถึง 16.5 เท่าซึ่งไม่ถูกและแนะนำทยอยทำกำไรหากดัชนีปรับตัวขึ้นแตะระดับดังกล่าว ส่วนระยะสั้นจึงเน้นเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวและกลุ่มที่ยัง Laggard เช่น กลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ
June 01, 2020 at 09:07AM
https://ift.tt/2ZWe7x6
สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้คาดแกว่งตัว ตลาดกังวลความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน - efinanceThai
https://ift.tt/3azMLPC
Home To Blog
No comments:
Post a Comment