สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้นักวิเคราะห์คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,345 - 1,365 จุด มีโอกาสรีบาวน์ระยะสั้นหลังปรับลงแรงวานนี้ กลุ่มพลังงานคาดว่ายังเป็นกลุ่มหลักที่ประคองตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวเหนือ 40 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ตามโดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น อย่างไรก็ดีตลาดยังมีความกังวลการระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในบราซิล สหรัฐและอินเดีย
*ตลาดหุ้นไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET Index)วานนี้(22มิ.ย.63) เปิดตลาดในแดนลบก่อนที่จะปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน มาปิดตลาดไปที่ 1,352.18 จุด ลดลง -18.64 จุด หรือ -1.36% มูลค่าการซื้อขาย 65,772.37 ล้านบาท
ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,977.83 จุด ลดลง -29.62 จุด หรือ -1.48%
ดัชนี SET50 ปิดที่ 893.92 จุด ลดลง -13.75 จุด หรือ -1.51%
ดัชนี mai ปิดที่ 300.05 จุด ลดลง -2.20 จุด หรือ -0.73%
*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ
ดัชนี ดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) ที่ระดับ 26,024.96 จุด เพิ่มขึ้น 153.50 จุด หรือ 0.59%
ดัชนี S&P500 ปิดตลาดที่ระดับ 3,117.86 จุด เพิ่มขึ้น 20.12 จุด หรือ 0.65%
ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับ 10,056.47 จุด เพิ่มขึ้น 110.35 จุด หรือ 1.11%
ดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดในแดนบวกอีกครั้งในวันแรกของสัปดาห์ เป็นผลมาจากการที่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลัง Apple เปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่บน iPhone และ Apple Watch เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้น 2.62 % หลังจากปรับลดลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคมที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ระดับ 40.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.79%
*มุมมองนักวิเคราะห์
บล.กรุงศรี เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,360 – 1,365 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นตอบรับความคาดหวังสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 40 US/Barrel ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาด อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวลงจากแรงกดดันกลุ่มธนาคารหลังธปท.สั่งเพิ่มเติมให้สถาบันการเงินทำแผนบริหารกองทุนและทดสอบความเสี่ยง (Stress test) ใหม่ภายในเดือน ก.ค. รวมถึงความกังวลการระบาดรอบสองของไวรัส Covid-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในบราซิล สหรัฐและอินเดีย
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,345 - 1,365 จุด โดยมีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้นหลงัจากปรับลงแรงวานนี้ กลุ่มพลังงานคาดว่ายังเป็นกลุ่มหลักที่ประคองตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวเหนือ 40 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ตามโดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ตลาดยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัวสร้างฐานและจับตาการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 ควบคู่ไปกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังทั่วโลก โดยฝั่งบ้านเรากนง.จะ ประชุมวันพรุ่งนี้ (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.50%) สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ไม่ มีผู้ติดเชื้อ 28 วันถือว่าค่อนข้างดี เราจึงมองจังหวะพักตัวของ SET Index ในกรอบ 1,330-1,350 จุด+/- เทียบเท่า 2021PER ราว 15.7 เท่าและ Earning Yield Gap ราว 5% เป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน โดยยังคงเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็น หลัก เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ โรงไฟฟ้า สื่อสารฯ เป็นต้น
June 23, 2020 at 09:26AM
https://ift.tt/3fGCjYS
สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้คาดแกว่งตัว ตลาดไร้ปัจจัยบวกหนุน - efinanceThai
https://ift.tt/3azMLPC
Home To Blog
No comments:
Post a Comment