หุ้นเด่นวันนี้
12 มิถุนายน 2563 | 09:22
ราคาหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL วันทำการล่าสุด(11มิ.ย.63) ยังพุ่งแรงต่อเนื่องทำจุดสูงสุดของวันไปที่ 5.70 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ แม้ในช่วงปิดตลาดจะอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยปิดตลาดไปที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ +5.71% ปรับตัวขึ้นสวนตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดรุนแรงกว่า -1.55% ซึ่งจากราคาปิดตลาดล่าสุดถือว่าปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดของปี 63 เมื่อมี.ค.63 มาแล้วกว่า 133%
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น PSL ปรับขึ้นแรงไม่สนตลาดนั้น มาจากดัชนีค่าระวางเรือเทกอง(BDI)ที่ยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยในวันที่ 10 มิ.ย. 63 ฟื้นขึ้นมาอยู่ที่ 764 จุด ทำนิวไฮรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่ 16 ม.ค. 63 และดัชนีในปัจจุบันถือว่าฟื้นตัวมาจากจุดต่ำสุดในวันที่ 14 พ.ค. 63 แล้วถึง 94% นั่นเอง
ขณะที่ฟากผู้บริหาร ระบุสอดคล้องกันว่า จุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมของ PSL ได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการทางการคลังจะทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมทั้งจะหนุนความต้องการใช้เหล็กได้กว่า 6.6 แสนล้านเหรียญ ซึ่งจะเข้ามาผลักดันอุปสงค์ในเรือสินค้าเทกองตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/63 ไปถึงตลอดปี 64
อย่างไรก็ดียังเชื่อว่าทั้งปี 63 อุตสาหกรรมยังคงถูกกดดันจากอุปทานเรือเทกองโลกปีนี้ที่จะขยายตัว 3.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 900 ล้านเดทเวตตัน ซึ่งขยายตัวมากกว่าความต้องการซื้อของลูกค้าที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
บล.ฟิลลิป คาดผลประกอบการของ PSL จะขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY เป็น 554 ล้านบาท เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ส่งผลให้หลายประเทศประกาศมาตรการล็อกดาวน์ และความต้องการขนส่งสินค้าชะลอตัวลง โดยดัชนีค่าระวางเรือของ PSL ใน Q2/63 อ่อนตัวลง QoQ แต่ประเมินว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีจากการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย และยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เป็นตัวช่วยอีกด้วย
ส่วนบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า หลังจากคลายล็อกดาวน์ทั่วโลก รวมถึงประเทศจีนที่กลับมาเปิดประเทศ ทำให้ BDI กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดดัชนี BDI ฟื้นตัวแล้ว 14.6% จากค่าเฉลี่ย Q1/63 แม้จะยังอยู่ในระดับต่ำไม่เพียงพอต่อการกลับมามีกำไรที่ราว 1,500 - 2,000 จุด แต่ก็เพียงพอกับการออกจากจุดต่ำสุดของวิกฤติครั้งนี้ ดังนั้นมองว่าในไตรมาส 2/63 จะขาดทุนลดลงจากไตรมาส 1/63 ที่ขาดทุนสุทธิ -117.10 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทั้งปี 63 จะขาดทุนที่ 266 ล้านบาท ก่อนพลิกมามีกำไรสุทธิในปี 64 ที่ 71 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ราคาหุ้น PSL เคยปรับตัวลดลงหนัก จากประเด็นความกังวลที่บริษัทอาจประสบปัญหาในการจ่ายคืนเงินต้นหุ้นกู้ และอาจไม่สามารถออกขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อมารีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิมที่จะถึงครบกำหนดชำระในปีนี้ได้
แต่ประเด็นนี้อาจไม่น่ากังวล โดยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่าในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา PSL ได้ขอขยายเวลาชำระหุ้นกู้จำนวน 1.9 พันล้านบาทออกไป 18 เดือน จากเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 9 มิ.ย.63 เป็นวันที่ 9 ธ.ค.64 แม้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 1.5% ส่งผลให้ปีนี้ PSL จะขาดทุนต่อเป็นปีที่ 2 แต่ด้วยฐานทุน 1.2 หมื่นล้านบาท อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(D/E) 1.15 เท่า EBITDA 1.6 พันล้านบาท ดังนั้นเรามองว่า PSL จะเอาตัวรอดในปีที่ยากนี้ไปได้
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 63 หุ้น PSL รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ได้ลงนามสัญญาเงินกู้จำนวน 10.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้บางส่วนที่ได้รับอนุมัติเลื่อนการไถ่ถอนออกไปอีกด้วย
จากการสำรวจราคาเหมาะสมและคำแนะนำของนักวิเคราะห์ที่มีต่อหุ้น PSL แล้ว พบว่าส่วนใหญ่ยังแนะนำ "ซื้อ" แต่ด้วยราคาที่ปรับขึ้นมาเร็วมากทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันแซงหน้าราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ดังนี้
ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ
RECOMMENDED NEWS
Let's block ads! (Why?)
No comments:
Post a Comment